การเลือกเสาไฟถนน

โดยทั่วไปเสาไฟถนนจะมีสองรูปแบบ รูปแบบแรก คือ เสาไฟถนนกิ่งเดี่ยว แบบนี้จะสามารถนำไปติดได้ทุกพื้นที่ ทั้งบริเวณเกาะกลางและริมถนน โดยเสาไฟถนนแบบนี้จะมีกิ่งเดียวสามารถหันไปได้ในทิศทางเดียว ซึ่งจะแตกต่างกับเสาไฟถนนกิ่งคู่ แบบกิ่งคู่จะนำไปติดได้แค่บริเวณเกาะกลางเท่านั้น ซึ่งราคาเสาไฟถนนกิ่งเดี่ยวจะมีราคาถูกกว่าเสาไฟถนนแบบกิ่งคู่ ซึ่งหากติดตั้งบริเวณเกาะกลางเราจะขอแนะนำให้ติดตั้งเสาไฟถนนแบบกิ่งคู่ เพื่อความคุ้มค่าประหยัดพื้นที่ และ ช่วยประหยัดพลังงาน

การติดตั้งโคมไฟถนน LED บนเสาไฟถนนถือเป็นสิ่งสำคัญ เพราะเสาไฟถนนถือเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ยึดติดกับโคมไฟถนน LED ดังนั้นจึงถือเป็นองค์ประกอบที่สำคัญ จะต้องมีความแข็งแรงและทนทานต่อแรงสั่นสะเทือนต่างๆ ทั้งจากยานพาหนะ และภัยธรรมชาติ ซึ่งเสาไฟถนนราคาจะแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับคุณภาพ และวัสดุที่ใช้ในการผลิต

ขนาดของเสาไฟถนนนั้นจะมีหลากหลายขนาด เช่น เสาไฟถนนสี่เมตร เสาไฟถนนสี่จุดห้าเมตร เสาไฟถนนห้าเมตร ไปจนถึงเสาไฟถนนเก้าเมตร ซึ่งเสาไฟถนนแต่ละประเภทก็จะมีความแตกต่างกันทางด้านขนาดและอุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิต ในปัจจุบันราคาเสาไฟฟ้าเหล็ก 9 เมตร ถือว่ามีราคาสูงที่สุดในหมวดหมู่ของเสาไฟถนน และถือเป็นเสาไฟถนนที่ได้รับความนิยม และมีความคงทนเป็นอย่างมาก ซึ่งหน่วยงานต่างๆ อาจมีข้อสงสัยในการเลือกซื้อเสาไฟถนน โดยทั่วไปแล้วเราจะคำนึงถึงการติดตั้งที่ควบคู่กับโคมไฟถนน LED หากเลือกเสาไฟถนนที่ไม่เหมาะสมกับโคมไฟถนน LED ก็จะทำให้การส่องสว่างไม่เกิดประสิทธิผล ส่องแสงไม่เต็มที่ อาจส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน ดังนั้นจึงควรมีการเลือกเสาไฟถนนที่มีความเหมาะสมพอดีกับโคมไฟถนน LED และ พื้นที่ที่จะทำการติดตั้ง

ราคาเสาไฟถนนในปัจจุบันจะมีตั้งแต่ถูกไปถึงแพง ในการเลือกเสาไฟถนน ประการแรกให้สังเกตจากสัญลักษณ์มาตรฐานมอก. โดยมาตรฐานมอก. คือ การรับรองว่าเสาไฟถนนรุ่นนี้ ได้ผ่านการตรวจสอบทั้งขั้นตอนการผลิตและความคงทน ความปลอดภัยในการใช้งาน เพราะการเลือกซื้อเสาไฟถนนถือเป็นการเลือกซื้อที่สำคัญกับประเทศ และคนหมู่มาก หากเลือกซื้อสินค้าที่ไม่ได้คุณภาพ ไม่ทนต่อการสั่นสะเทือนของรถ หรือแผ่นดินไหว ภัยธรรมชาติ ก็จะส่งผลทำให้เกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดฝัน ดังนั้นก่อนการเลือกซื้อเสาไฟถนนหน่วยงานต่างๆควรมีการศึกษาข้อดีและข้อเสียของเสาไฟถนนและโคมไฟถนน LED แต่ละประเภทเพื่อความปลอดภัยของประชาชน

นอกจากนี้ประการที่สองให้สังเกตจากความตรง เสาไฟถนนที่ได้มาตรฐานจะต้องเป็นเสาตรงในแนวดิ่งไม่มีการคดหรืองอ มีเท้าแขนที่สามารถถอดหรือประกอบเองได้ เพื่อความคงทนต่อแดด ลม น้ำ และแรงสั่นสะเทือนทั้งจากยานพาหนะ และ ภัยธรรมชาติเสาไฟถนนจะต้องผลิตจากท่อเหล็กปลายเรียวไม่มีรอยต่อ เท้าแขนจะต้องสามารถต่อเข้ากับโคมไฟถนน LED ได้อย่างพอดี อีกทั้งเสาไฟถนนที่ดีจะต้องมีช่องเปิดปิดกันน้ำที่มีไว้เพื่อเก็บไว้ซ่อมบำรุงสายไฟฟ้าที่อยู่ภายในตัวเสาไฟถนน

ในส่วนของการติดตั้งเสาไฟถนนทุกต้นจะต้องติดตั้งในแนวดิ่ง เท้าแขนจะต้องทำมุมฉากกับถนนที่ทำการติดตั้ง นอกจากนี้ขณะทำการติดตั้งควรมีความละเอียดในการติดตั้งโคมไฟถนน LED กับเสาไฟถนน และควรตรวจสอบการติดตั้งว่าทนแต่แรงสั่นสะเทือน และสามารถเปิดใช้งานได้ตามปกติหรือไม่ โดยสายไฟที่เชื่อมต่อระหว่างโคมไฟถนน LED จะต้องต่อลงมาในเสาไฟถนนและต้องต่อลงดินทุกต้น เพื่อป้องกันการรั่วไหลของกระแสไฟฟ้า ทั้งนี้หากทำการติดตั้งและตรวจสอบความมั่นคงของโคมไฟถนน LED กับกิ่งโคมไฟถนนแล้ว ให้ทำเครื่องหมายระบุหมายเลขของเสาไฟถนน ด้วยระบบตัวเลขแสดงเลขที่ตู้สายไฟ วงจร และเลขที่เสาไฟถนน ไว้ที่ด้านใดด้านหนึ่งของเสาไฟถนน เพื่อง่ายต่อการซ่อมแซมและแก้ไขในกรณีที่เสาไฟถนนเกิดความขัดข้อง หากสังเกตพบว่าเสาไฟถนนไม่ได้มาตรฐานควรรีบแจ้งหน่วยงาน เพื่อทำการซ่อมแซมเสาไฟถนน

เติมเต็มจุดต่างๆ ลดริ้วรอยหรือปรับแต่งรูปหน้าด้วย ฉีดฟิลเลอร์ ชลบุรี

ปัจจุบันนี้นั้นมีหลากหลายคลินิกที่เปิดให้บริการฉีดฟิลเลอร์เพื่อแก้ไขปรับรูปหน้า ไม่ว่าจะเป็นฟิลเลอร์เติมคาง เติมปากให้อวบอิ่ม เติมขมับ ฟิลเลอร์ใต้ตา ร่องแก้ม ซึ่งช่วยยกหน้าให้กระชับแลดูอ่อนเยาว์ได้โดยไม่ต้องผ่าตัด ฉีดแล้วไม่เป็นก้อน สามารถเห็นผลลัพธ์ได้หลังทำทันที การฉีดฟิลเลอร์มาไว้ให้อย่างครบถ้วน เพื่อให้ผู้ใช้บริการได้ทำความรู้จักและทำความเข้าใจกับการฉีดฟิลเลอร์ก่อนที่จะตัดสินใจเข้ามาใช้บริการ ฉีดฟิลเลอร์ ชลบุรี

ฟิลเลอร์นั้นเป็นสารเติมเต็มผิวหรือที่เรียกทางการแพทย์ว่า “เดอร์มอล ฟิลเลอร์” (Dermal filler) นั้นคือสารไฮยาลูโรนิค (Hyaluronic acid ) หรือเรียกสั้น ๆ ว่า HA เป็นสารสกัดจากธรรมชาติที่มีองค์ประกอบของคอลลาเจน มีโครงสร้างประกอบกันเป็นร่างแหด้วยวิธีการทางเคมี ซึ่งคล้ายคลึงกับโครงสร้างที่มีอยู่แล้วในเซลล์ผิว ผ่านการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยจากทั่วโลก จึงมั่นใจได้ว่ามีความปลอดภัยสูงอย่างแน่นอน

ฟิลเลอร์ เป็นสารที่มีความใกล้เคียงกับผิวธรรมชาติของมนุษย์สูง ไม่เป็นอันตรายและได้รับการรับรองจากทั่วโลก ด้วยคุณสมบัติที่ช่วยกักเก็บน้ำของชั้นใต้ผิวหนังได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยฟิลเลอร์จะเข้าไปทำหน้าที่ช่วยเติมเต็มช่องว่างให้กับเซลล์ผิวหนัง หรือเพิ่มปริมาตรให้กับผิว เรียกง่ายๆ ว่าเสมือนเป็นการติดสปริงให้กับผิว ฉีดฟิลเลอร์ ชลบุรี ช่วยให้ผิวมีความยืดหยุ่น เต่งตึงและกระชับขึ้น อีกทั้งยังมีคุณสมบัติในการช่วยปรับรูปหน้าและลดริ้วรอย ทำให้ใบหน้าดูเด็กลง เข้ารูปอย่างชัดเจน อีกหนึ่งคุณสมบัติที่ถือว่าเป็นข้อดีเลยก็คือ ฉีดฟิลเลอร์ ชลบุรี สามารถสลายตัวไปได้เองตามธรรมชาติ ทำให้ไม่ส่งผลเสียต่อร่างกายในระยะยาว

ฉีดฟิลเลอร์ ชลบุรี เติมเต็มจุดไหนดีช่วยเรื่องอะไร

– คาง ปัญหาคางสั้น คางตัด เป็นสาเหตุทำให้ใบหน้าเราดูกลม ไม่มีมิติ เมื่อเติมเต็มฟิลเลอร์เข้าไป รูปหน้าจะดูเรียว V-shape ได้สัดส่วนที่ดีมากขึ้น ซึ่งผลลัพธ์ดีไม่เเพ้การผ่าตัดเสริมคางเลยทีเดียว
– ปาก ปัญหาปากบาง ปากไม่มีกระจับ ปากไม่เป็นทรง ทาลิปไม่สวย เมื่อเติมเต็มฟิลเลอร์เข้าไป หลังทำเสร็จทันที ปากจะดูอวบอิ่ม กระจับชัด มุมปากยก หน้าเราก็จะดูหวาน เวลายิ้มมีเสน่ห์มากขึ้น
– ใต้ตา อายุที่เพิ่มมากขึ้น หรือปัจจัยต่างๆในการใช้ชีวิต เช่น การนอนดึก การเป็นภูมิแพ้ เป็นสาเหตุทำให้กระดูกใต้ตายุบตัวลง เนื้อบริเวณใต้ตาจะมีความหย่อนคล้อย ความหมองคล้ำ หน้าโทรมดูเหนื่อย เมื่อเติมเต็มฟิลเลอร์เข้าไป ใต้ตาจะอิ่มฟูขึ้นทันที หน้าดูสดใส ดูเด็กลงอีกด้วย
– ขมับ ขมับตอบ เป็นสาเหตุทำให้หน้าดูแก่ ดูโทรม เมื่อเติมเต็มฟิลเลอร์เข้าไปสัดส่วนของรูปหน้าจะดูละมุนมากขึ้น ถือเป็นจุดเสริมโหงวเฮ้งด้านการค้าขาย การงานได้อย่างดีเยี่ยม
– ร่องแก้ม ร่องแก้มลึกเป็นสาเหตุทำให้เราดูแก่กว่าวัย เมื่อเติมเต็มฟิลเลอร์เข้าไป นอกจากจะได้ความหน้าอิ่มฟู ยังได้ความหน้าเด็กเพิ่มมากอีกด้วย
– เเก้มส้ม ปัญหาหน้าเเบน ไม่มีเเก้ม หน้าไม่มีมิติ เมื่อเติมเต็มฟิลเลอร์เข้าไปบริเวณหน้าเเก้มจะสามารถปรับเปลี่ยนจุดกระทบของเเสงที่ตกลงบริเวณโหนกแก้ม ให้เเสงเปลี่ยนมาตกกระทบลงที่หน้าแก้มหรือครึ่งกลางตา ซึ่งจะทำให้หน้าดูละมุน ดูเกาหลีมากยิ่งขึ้น
– แก้มตอบ ส่งผลให้หน้าโทรม ดูแก่กว่าวัยเพราะเนื้อบริเวณเเก้มยุบตัวลง เมื่อเติมเต็มฟิลเลอร์เข้าไป จะช่วยให้ใบหน้าเราดูเอิบอิ่ม สดใส ผิวไม่หย่อนคล้อย เเถมช่วยลดความเด่นของโหนกเเก้มได้อีกด้วย

ปั้มฟอลจะสะท้อนให้เห็นถึงคุณภาพของเพจที่เป็นที่นิยม

การมีเป้าหมายเพิ่มผู้ติดตามใน Facebook นั้นสำคัญไม่แพ้การมีเป้าหมายที่ให้คนเข้ามาไลค์ เนื่องจากยอด follow จะสะท้อนให้เห็นถึงคุณภาพของเพจที่เป็นที่นิยมหรือน่าสนใจจริงๆ ซึ่งแตกต่างจากเมื่อก่อนที่นิยมวัดว่าเพจไหนเจ๋งกว่ากันโดยวัดจากยอด Like แต่ปัจจุบัน ยอด Follow นี่แหละวัดกันว่าใครตัวจริง

การกด Follow กันใน Facebook ก็คือการติดตามความเคลื่อนไหวของบุคคลหรือเพจที่ไลฟ์สไตล์ที่เราสนใจ โดยหากเป็นการกกดติดตาม Facebook ส่วนตัวใครสักคนเราก็จะเห็นโพสต์ที่เป็นสาธารณะโดยไม่ต้องรอให้อีกฝั่งตอบรับคำขอติดตามเลยทั้งสิ้น ต่างจากการเพิ่มเป็นเพื่อนที่ต้องรอให้อีกฝั่งตอบรับนั่นเอง ซึ่งเราสามารถตั้งค่าได้ว่าถ้ามีคนติดตามแล้วจะให้ทำอะไรได้บ้าง เช่น คนติดตามเราคอมเม้นท์ได้หรือเลือกรับแจ้งเตือนกิจกรรมของคนที่มาติดตาม และยังสามารถดูได้ว่าคนๆ นั้นมีคนติดตามมากน้อยแค่ไหน หรือเค้าติดตามใครบ้าง

หลังจากที่ได้อ่านความสำคัญของ Follow หลายคนเริ่มสนใจและอยากลองใช้ ในบทความนี้ เราจะนำเสนอวิธีการเปิด Follow และเทคนิคดีๆ ที่ช่วยให้ยอดผู้ติดตามบน Facebook เพิ่มขึ้นตามเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ฟรีๆ

เปิดปุ่ม Follow ง่ายๆ

สำหรับ Facebook ส่วนตัว อับดับแรก ให้เราเข้าไปที่ Facebook แล้วเลือกเมนู“การตั้งค่า” เพื่อเข้าในสู่การตั้งค่าบัญชี Facebook จากนั้นให้เลือกเมนู “ผู้ติดตาม” ทั้งนี้เราสามารถตั้งค่าผู้ติดตามเราได้ว่าอยากให้เป็นกลุ่มไหน โดยการคลิกที่ปุ่ม “ใครสามารถติดตามฉันได้” อีกทั้งเรายังกำหนดได้ว่า ผู้ติดตามสามารถแสดงความคิดเห็นบนโพสต์ของเราได้หรือไม่ ด้วยการคลิกที่เมนู “ความคิดเห็นของผู้ติดตาม” หากกำหนดเป็นสาธารณะผู้ติดตามจะสามารถแสดงความคิดเห็นได้ แต่หากไม่ต้องการ ให้เลือก เป็นเพื่อน หรือเพื่อนของเพื่อนแล้วแต่เราต้องการได้นั้นเอง
สำหรับ Facebook Page นั้นไม่ยาก เนื่องจากปุ่ม Follow จะมีอัตโนมัติควบคู่กับปุ่ม Like เมื่อเราสร้างเพจ ดังนั้นการมีเพจจึงนับได้ว่าเป็นการสร้างชุมชนขนาดใหญ่ที่สามารถทำให้กลุ่มคนที่มีความชอบแบบเดียวกันมารวมตัวกันได้ แม้จะไม่รู้จักกันมาก่อนก็สามารถที่จะแนะนำ พูดคุยกันได้ โดยรู้สึกว่าคนที่เข้ามาพูดคุยด้วยนั้นเป็นกลุ่มคนที่มีความชื่นชอบอะไรที่เหมือนกัน เมื่อเราได้ทำการโพสต์ข้อมูลของร้านค้า หรือสินค้าลงบนแฟนเพจ เราก็สามารถรับรู้ถึงผลตอบรับได้ทันทีเลย

เทคนิคดี ๆ ที่ช่วยให้ยอดผู้ติดตามบน Facebook

สร้างประทับใจที่ดี เพิ่มผู้ติดตามได้จริง

เมื่อเราโพสต์ข้อความไม่ว่าจะโปรโมทธุรกิจ โปรโมทสินค้า หรือจะเป็นการให้ความรู้ต่างๆ ก็ตามเมื่อลูกเพจ และบุคคลทั่วไปที่พบเห็นไม่ว่าเห็นจากการเลื่อน facebook หรือ มีคนแชร์มาให้ดูก็ตามได้เข้ามาแสดงความคิดเห็น ไม่ว่าจะเป็นความคิดเห็นเชิงบวก หรือเชิงลบ การที่เราไปตอบรับความรู้สึกของบุคคลเหล่านั้น จะทำให้เกิดความรู้สึกประทับใจ และใกล้ชิดต่อเพจของเรามากขึ้น

ให้ความสำคัญกับรูป Profile และรูป Cover

รูป Profile และรูป Cover นั้นเป็นหน้าเป็นตาของเพจของเรา เพราะว่ามันเป็นสิ่งแรกๆ ที่คนจะเห็น เพราะฉะนั้นเราควรจะทำมันให้ดี ออกแบบให้สวยและตรงตาม Guideline ถ้าเราคิดว่าตัวเองออกแบบไม่สวย ลองใช้ตัวช่วยอย่างเว็บออกแบบฟรีที่กำลังได้รับความนิยมอย่าง Canva ดูได้เลย

เขียนคำอธิบายเพจ ให้ชัดเจนและน่าสนใจ

นอกจากคนทั่วไปจะเข้ามาดูเพจ Facebook ของเราดูรูป Profile และรูป Cover แล้ว สิ่งสำคัญที่เขาจะเปิดดูต่อไปก็คือตรงส่วนคำอธิบาย (about) เพื่อดูว่าเพจของเรานั้นเป็นเพจเกี่ยวกับอะไร ถ้าเราสามารถเขียนสรุปเกี่ยวกับเพจ Facebook ของเราให้น่าสนใจ และอ่านแล้วจบ เข้าใจภายในประโยคเดียวได้ และบังเอิญเพจของเรานั้นตรงจริตกับคนอ่าน เขาก็จะเลือกติดตามเรานั้นเอง

สร้างบรรยากาศดีๆ ด้วยการใส่ความเป็นกันเองลงไป

โดยปกติมนุษย์จะชอบการสื่อสารระหว่างกันมากกว่าการคุยกับโปรแกรมโต้ตอบอัตโนมัติ แม้ว่าประโยชน์ของโปรแกรมโต้ตอบอัตโนมัติจะช่วยในเรื่องการตอบในทันทีก็ตาม แต่ความน้อมโน้ม หรืออารมณ์ความรู้สึกนั้นมักจะหายไปถ้าเราใช้โปรแกรมนี้ หากเราพยายามตอบคำถามลูกเพจเองจะทำให้เพจของเราดูจริงใจ ดูเป็นกันเองและน่าสนใจยิ่งขึ้น อาจนำไปสู่การทำให้มีคนอยากติดตามเราเยอะขึ้นด้วย

ใส่ Hashtag ในโพสต์ เพื่อเกาะติดกระแส

แม้ว่า Hashtag ในแพตฟอร์ม Facebook นั้นไม่ได้มีความสำคัญกับโพสต์เหมือนกับใน Twitter แต่ในบางครั้ง ถ้าเรื่องที่คุยกำลังจะโพสต์เป็นกระแสอยู่ แล้วบังเอิญมีคนใช้ Hashtag ในกระแสนั้นๆ พอดี การใช้ Hashtag อาจจะช่วยทำให้เราเพิ่มยอดคนที่เห็นโพสต์ของเราและเพิ่มผู้ติดตามได้

โพสต์อย่างสม่ำเสมอ

การโพสต์ลงเพจ Facebook อย่างสม่ำเสมอจะทำให้ผู้ติดตามปัจจุบันของเราเห็นโพสต์จากเราเป็นประจำ ซึ่งถ้าคอนเทนต์ของเราดี ผู้ติดตามปัจจุบันของเราก็จะแชร์คอนเทนต์ของเราออกไปซึ่งโพสต์ของเราที่ถูกแชร์ไปนั้นจะทำให้เพิ่มโอกาสในการที่ผู้ติดตามใหม่ๆ จะเข้ามาติดตามเพจ Facebook ของเรา Buffer ซึ่งเป็นเครื่องมือจัดการ Social media ชื่อดังบอกมาว่าจำนวนครั้งที่โพสต์บน Facebook ควรอยู่ระหว่าง 5-10 ครั้งต่อสัปดาห์

เพิ่มเติม : https://smo-th.com/